วันอาทิตย์ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

[สาระน่ารู้] ห่างคุกได้ด้วยกฏหมายไอทีน่ารู้

ด้วยความที่ว่าผู้คนยุคปัจจุบันนี้เข้าถึงไอที (เทคโนโลยีสารสนเทศ) ได้มากกว่ายุคก่อนๆ แต่จะมีสักกี่คนที่รู้เกี่ยวกับข้อกฎหมายของไอที ก็แหมกฎหมายมันเป็นเรื่องเข้าใจยากนี่นะ

วันนี้ SmiLelY จึงไปคัดสรรค์บทความดีๆมากฝากกัน เพื่อช่วยไม่ให้หลายๆคนเผลอตัวทำผิดกฎหมายด้วยความไม่รู้

(ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก Yenta4)

ปล. อาจมีการดัดแปลงภาษาที่ใช้ คำ หรือประโยคบางส่วน เพื่อความเหมาะสม


__________________________________________________________



การใช้ "ชื่อ" และ "นามแฝง"

ในสังคมออนไลน์ หรือโลกบนอินเตอร์เน็ตเราสามารถที่จะตั้งชื่อปลอม นามแฝงอะไรก็ได้

หาก"นามแฝง" ที่เราใช้ไม่เกี่ยวกับกับใครหรือว่าร้ายใครก็คงจะไม่มีปัญหาอะไร

แต่ในกรณีที่ไปเอาชื่อ นามสกุลผู้อื่นมาใช้โดยที่เจ้าของชื่อ นามสกุลนั่นไม่รู้

แล้วไปทำให้เกิดความเสียหายกับเจ้าตัว ก็อาจจะโดยฟ้องร้อง ร้องเรียกค่าเสียหายได้


การพนันออนไลน์

ตามกฎหมายแบ่งแยกการพนันออกเป็น 2 ประเภท โดยแยกออกเป็น "บัญชี ก." และ "บัญชี ข."

กลุ่มที่อยู่ในบัญชี ก. กฎหมายห้ามเล่นโดยเด็ดขาด อาทิ พวกหวย ก.ข. ไฮโล ไพ่ต่างๆ

ส่วนประเภทสอง ที่อยู่ในบัญชี ข. เล่นได้แต่ต้องขออนุญาตจากเจ้าหน้าที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติก่อนเว็บไซต์

เกี่ยวกับการพนันออนไลน์มีนับไม่ถ้วน ส่วนใหญ่จะเป็นไพ่ต่างๆ และสล็อตแมชชีน

ซึ่งถือเป็นการพนันตามบัญชี ก. ผู้ฝ่าฝืนก็มีโทษจำคุกตั้งแต่ 3 เดือนถึง 3 ปี

อย่างไรก็ตาม การเล่นพนันออนไลน์ในขณะนี้ติดตามจับกุมยากและไม่คุ้มกับทรัพยากรของภาครัฐ จึงยังไม่ค่อยเห็นการดำเนินคดีอย่างจริงจัง




ความผิดของ"เว็บมาสเตอร์"

"เว็บมาสเตอร์ (Webmaster)" คือ ผู้ดูแลเว็บไซต์ต่างๆ ในกรณีมีผู้ใช้งาน (User) เข้ามาเขียนกระทู้ โพสต์ข้อความหรือโพสต์รูป ที่ทำให้ผู้อื่นอื่นเสียหาย

รวมทั้งภาพอนาจาร หรือเขียนเนื้อหาพาดพิงสถาบัน ตัวผู้ใช้งาน (User) คนนั้นจะถือว่ากำลังทำความผิดทางอาญา

ส่วนเว็บมาสเตอร์ (Webmaster) ถ้าพบว่า เห็นข้อมูลที่สร้างปัญหา แต่ปล่อยปละละเลย ไม่สนใจลบข้อความทิ้ง หรือแก้ไขข้อความก็อาจถูกฟ้องร้องฐาน ร่วมกระทำความผิดด้วย เช่น เรียกค่าเสียหายทางแพ่ง

โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าในเว็บไซต์ดังกล่าวไม่มีมาตรการป้องกันการกระทำผิด กฎหมาย โอกาสต้องรับโทษจะยิ่งสูงขึ้น


"ลิงก์-ไฮเปอร์ลิงก์" ละเมิดลิขสิทธิ์

ในสังคมออนไลน์ และโลกบนอินเตอร์เน็ต เปิดโอกาสให้แต่ละเว็บไซต์เชื่อมโยงข้อมูลถึงกันได้อย่างสะดวกง่ายดาย

ผ่านระบบที่เรียกว่า "ไฮเปอร์ลิงก์" หรือ "ลิงก์" ปัญหาอาจเกิดขึ้นได้ ถ้าไปเอาข้อมูลจากเว็บไซต์อื่นๆ มาเผยแพร่

แม้จะทำลิงก์เชื่อมโยงที่มาเอาไว้ แต่ถ้าไม่ได้ขออนุญาตเจ้าของเว็บปลายทางโดยตรงก็อาจมีความผิดฐานละเมิด ลิขสิทธิ์ หรือทำซ้ำงานอันมีลิขสิทธิ์ของผู้อื่น

ในสหรัฐอเมริกามีข้อถกเถียงกันใน ประเด็นนี้อย่างแพร่หลายถ้าจะเอาเว็บไซต์ของคนอื่นมาลิงก์เข้ากับเว็บไซต์ ของเราจะต้องไปขออนุญาตหรือไม่

ในประเทศไทยปัญหานี้ยังไม่เคยเกิดขึ้น แต่อนาคตอาจเกิดขึ้นได้ ดังนั้น ก่อนจะนำเว็บของคนอื่นมาลิงก์เข้ากับเว็บของเราควรขออนุญาตให้เรียบร้อยก่อน


การดาวน์โหลดเพลง

"งานเพลง" ถือเป็นงานอันมีลิขสิทธิ์ที่ใครจะไปทำซ้ำ ดัดแปลง หรือเผยแพร่ต่อสาธารณชนโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของไม่ได้

การอัพโหลดไฟล์เพลงขึ้นไปอยู่ในโลกอินเตอร์เน็ตถือเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ เช่นกัน

ยิ่งถ้าทำเพื่อการค้าโดยเก็บเงินจากคนที่ดาวน์โหลดเพลงนับเป็นความผิดคดี อาญา

สำหรับคนที่ดาวน์โหลดมาฟังเฉยๆ ถือเป็นการทำซ้ำ แต่พอมีช่องทางทางกฎหมายที่จะอ้างได้ว่าไม่เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ เพราะถือเป็นการทำซ้ำมาเพื่อใช้ประโยชน์เอ

และการดาวน์โหลดมาฟังยังพอมีช่องทางต่อสู้คดีได้ว่าไม่ได้เป็นอุปสรรคกับการ ใช้ประโยชน์จากงานอันมีลิขสิทธิ์ของเจ้าของลิขสิทธิ์ เพราะไม่ได้เอาไปขาย


การซื้อโปรแกรมลิขสิทธิ์มาก๊อบปี้แจกผู้อื่น

เนื่องจากโปรแกรมลิขสิทธิ์ หรือโปรแกรมถูกกฎหมายมีราคาแพงมาก ทำให้ธุรกิจโปรแกรมเถื่อนละเมิดลิขสิทธิ์เฟื่องฟูยิ่งกว่าดอกเห็ด

อย่างไรก็ตาม แม้เราจะซื้อโปรแกรมลิขสิทธิ์มาใช้ แต่ถ้านำโปรแกรมนั้นไปแจกให้เพื่อนฝูงก๊อบปี้ หรือทำสำเนาไปใช้ต่อ ถือว่ามีความผิดฐาน "ทำซ้ำ"

ซึ่งเข้าข่ายละเมิดลิขสิทธิ์ แม้กฎหมายจะมีข้อยกเว้นให้การทำสำเนาโดยเจ้าของโปรแกรมมีลิขสิทธิ์ ทำได้โดยไม่ผิดกฎหมาย

แต่ไม่ใช่การยกเว้นโดยไม่มีขอบเขต เพราะกฎหมายจำกัดจำนวนสำเนาว่าให้มีจำนวนตามสมควร เพื่อวัตถุประสงค์ในการบำรุงรักษาหรือป้องกันการสูญหาย


อีเมล์ขยะ (สแปมมิ่ง)

ใครที่ใช้ "อีเมล์" ทุกวันร้อยทั้งร้อยคงรู้สึกเบื่อหน่ายกับ "อีเมล์โฆษณาขยะ" ทั้งหลายที่ส่งมาได้ทุกวัน วันละหลายๆ ฉบับ

ทั้งน่าเบื่อ น่ารำคาญ และเสียเวลาอ่าน เจ้าของสินค้าหรือผู้ส่งอีเมล์ขยะเหล่านี้ได้ข้อมูลที่อยู่อีเมล์ของเราผ่านวิธีการหลากหลายรูปแบบ

เช่น ฝังโปรแกรม "คุกกี้" เอาไว้ตามเว็บไซต์ที่เราเข้าไปดู จากนั้นก็ส่งคุกกี้เข้ามาคอยสอดส่องเก็บข้อมูลการใช้คอมพิวเตอร์และอีเมล์ของเรา เพื่อส่งอีเมล์ขยะมาหา

ในสหรัฐ ปัญหาอีเมล์ขยะทำให้มีผู้ใช้อินเตอร์เน็ตไปร้องเรียนกับหน่วยงานของรัฐ เพื่อให้เร่งออกมาตรการควบคุม

และเคยเกิดคดีดังขึ้นคดีหนึ่ง หลังจากบริษัท "เอโอแอล" ไอเอสพีหรือผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ ลงมือฟ้องร้องบริษัทไซเบอร์โปรโมชั่น ฐานส่งอีเมล์โฆษณาขยะไปยังอีเมล์ของลูกค้าเอโอแอล

นอกจากนั้น ยังมีอีกคดีที่ไอเอสพีฟ้องผู้ส่งอีเมล์ขยะฐานะ "บุกรุก" คอมพิวเตอร์ลูกค้า

ส่วนในไทยอาจเข้าข่ายผิดมาตรา 10 ในกฎหมายคอมพิวเตอร์ 2550 ที่ระบุว่า ผู้ใดกระทำการโดยมิชอบ

เพื่อให้การทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นถูกระงับ ชะลอ ขัดขวาง หรือรบกวนจนไม่สามารถทำงานตามปกติได้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

จาก school.obec.go.th/


__________________________________________________________

เป็นยังไงกันมังเอ่ย ก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่เข้าใจยาก หรือปฏิบัติตามอะไรยากมากมายเนอะ เรื่องไหนที่เราเคยทำแล้วผิดไป ในเมื่อเรารู้แล้วก็พยายามหลีกเลี่ยงล่ะกันนะจ้ะ จะได้ไม่มีปัญหาทีหลัง

ด้วยความปารถนาดีจาก SmiLelY จ้า อิอิ











ขอบคุณ : Yenta4 และ school.obec.go.th 

1 ความคิดเห็น: