วันอาทิตย์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554
[TipS] 10 เทคนิคถ่ายภาพชัดดังใจ !!!
มาแล้วจ้า!!! หลังจากที่ห่างหายไปนานจากฟอรั่มนี้
วันนี้ขอเอา Tips ดีๆมาฝาก สำหรับมือใหม่หัดถ่ายภาพ
ซึ่งปัญหาที่มือใหม่ทั้งหลายจะพบกับแทบทุกคนก็คือ "ภาพแล้วภาพไม่ชัด" ก็เพราะว่าเราเป็นมือใหม่ไง จะมาให้มีเลนส์โปร มีระบบกันสั่นมันก็ไม่ใช่เรื่อง จริงมั้ย?
ยิ่งเราไม่ใช่พวกมือใหม่กระเป๋าป๋าด้วยแล้วล่ะก็นะ รับรองว่าประสบปัญหานี้แน่ๆ
ดังนั้น SmiLelY ก็ไปชกบทความดีๆที่อยู่ใน http://camerartmagazine.com มาให้เพื่อนๆได้อ่านกัน ก็เห็นว่ามันดีแล้วก็มีประโยชน์
ยังไงก็ลองอ่านๆแล้วก็เอาไปปรับใช้ดูนะ เพราะยังไงทางใครทางมัน นี่เป็นแค่แนวทางเฉยๆ
เอาล่ะ ช้าอยู่ใยมาอ่านกันเลย (อ่านให้จบนะจ้ะ)
[วิธีที่ 1]
กดชัตเตอร์ในนิ่มนวลในการถ่ายภาพ เริ่มต้นหลายคนอาจบอกว่าเป็นเรื่องง่าย แต่ต้องขอบอกว่าหลายครั้งการกดชัตเตอร์ด้วยความรวดเร็วหรือหนักเกินไปจะทำให้กล้องไหวได้ง่าย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับกล้องคอมแพคที่ขนาดเล็กและเบารวมทั้งกล้อง DSLR ที่เป็นกล้องขนาดเล็กทั้งหลายที่มีน้ำหนักเบา
การกดชัตเตอร์ที่หนักเกินไปหรือรวดเร็วเกินไปมีส่วนทำให้กล้องไหวได้ง่ายนี่ คือสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ภาพถ่ายขาดความคมชัด
ด้วยเหตุนี้กล้องในระดับโปรทั้งหลายจึงไม่มีกล้องที่มีน้ำหนักเบา ส่วนใหญ่แล้วจะมีน้ำหนักที่ค่อนมาก
ที่เป็นเช่นนี้เพราะด้วยน้ำหนักของกล้อง จะทำให้การกดชัตเตอร์มีความเสถียรมากกว่า ทำให้ได้ภาพที่คมชัดกว่าในการใช้งาน
ดังนั้นการกดชัตเตอร์ที่นิ่มนวลจะช่วยลดปัญหานี้ได้
[วิธีที่ 2]
โฟกัสให้ชัดก่อนกดชัตเตอร์ ปัญหาถ่ายรูปไม่ชัดส่วนใหญ่เกิดจากสาเหตุนี้ ถ้าโฟกัสภาพด้วยมือต้องระลึกเสมอว่าต้องปรับระยะชัดให้ดีก่อนกดชัตเตอร์
ดังนั้นถ้าโฟกัสเองแล้วไม่ชัดก็ไม่ต้องไปโทษใคร เป็นเพราะตัวเราเนี่ยล่ะ แต่ถ้าเป็นระบบออโต้โฟกัส สิ่งที่ต้องเข้าใจมี 2 เรื่อง
1. คือเรื่องจุดโฟกัสของกล้อง การเลือกจุดโฟกัสถ้ากล้องมีหลายจุดจะทำให้โฟกัสในตำแหน่งที่ต้องการได้
2. คือการยืนยันโฟกัสของกล้อง ซึ่งกล้องมักจะมีสัญญาณเตือนให้ทราบ เช่นสัญญาณที่เป็นจุดเขียวในแถบข้อมูลของช่องมองภาพ หรือสัญญาณเสียงก็ตาม
นั่นหมายความว่ากล้องยืนยันการโฟกัสเมื่อกดชัตเตอร์จะทำให้ได้ภาพที่คมชัด แต่ถ้ากดชัตเตอร์ทันทีทันใดให้เข้าใจไว้ก่อนว่าอาจจะได้ภาพที่ชัดหรือไม่ชัดก็ได้
ซึ่งขึ้นกับสมรรถนะความเร็วในการโฟกัสภาพและความแม่นยำในการอ่านระยะโฟกัสของกล้อง ยิ่งถ้าเป็นกล้องคอมแพคด้วยแล้วให้ระมัดระวังไว้ว่าความเร็วในการโฟกัส
และความสามารถในการอ่านจุดโฟกัสจะช้ากว่ากล้องในระดับ DSLR แน่นอน
[วิธีที่ 3]
เลือกความไวชัตเตอร์ให้สูงขึ้นป้องกันการสั่นไหวของกล้อง ปัญหาหลักอีกอย่างหนึ่งที่ทำได้รูปถ่ายไม่ชัดก็ คือ ภาพที่ถ่ายออกมาไหว
ปัญหานี้เกิดจากการถ่ายภาพที่ความเร็วชัตเตอร์ต่ำเกินไปเป็น หรืออีกสาเหตุหนึ่งก็คือการถือกดชัตเตอร์แล้วกล้องไหว แก้ได้ไม่ยาก
เรื่องแรกถ้าถือกล้องถ่ายรูปต้องถือให้มั่น กดชัตเตอร์ให้นุ่มนวลจะช่วยแก้ปัญหาเรื่องกล้องไหวได้
อีกอย่างหนึ่งก็คือการเลือกความไวชัตเตอร์ให้สูงขึ้นเพื่อลดการไหวของกล้อง เท่านี้ก็จะเพิ่มโอกาสให้ถ่ายรูปได้ภาพที่นิ่งมีความคมชัดมากขึ้น
[วิธีที่ 4]
ใช้ขาตั้งกล้องช่วยป้องกันการไหวของกล้อง หลายครั้งที่การถ่ายภาพจำเป็นต้องใช้ความเร็วชัตเตอร์ต่ำในการถ่ายภาพซึ่งจะทำให้การถือกล้องให้นิ่งไม่ให้สั่นไหวทำได้ยาก
อย่าฝืนควรเลือกการใช้ขาตั้งกล้องช่วยจะทำให้สามารถถ่ายรูปได้โดยกล้องไม่ไหว ภาพที่ได้ก็จะเพิ่มโอกาสให้มีความคมชัดมากขึ้น
อีกประการหนึ่งการเลือกใช้ขาตั้งกล้องก็ควรมีความสมดุลกับกล้องที่ใช้งาน ถ้ากล้องเล็กขาตั้งกล้องเล็กก็ถือว่าใช้งานสมน้ำสมเนื้อ
แต่ถ้าใช้กล้อง DSLR ติดเลนส์ที่ใหญ่ขึ้นการใช้ขาตั้งกล้องที่เล็กเกินไปก็อาจจะมีโอกาสทำให้กล้องสั่นไหวได้เหมือนกัน
ยิ่งถ้าเป็นกล้อง DSLR การกระดกของการลั่นชัตเตอร์ซึ่งแม้เพียงเล็กน้อยก็มีโอกาสทำให้กล้องสั่นได้เช่นกัน
[วิธีที่ 5]
เลือกรูรับแสงที่แคบเพื่อเพิ่มความชัดลึก การเลือกรูรับแสงที่แคบเล็กหน่อยจะทำให้วัตถุมีความชัดลึกเพิ่มมากขึ้น
ซึ่งถ้าการโฟกัสภาพคลาดเคลื่อนเล็กน้อยการควบคุมภาพให้มีความชัดลึกก็สามารถช่วยให้วัตถุยังมีความคมชัดอยู่ได้
ส่วนหนึ่งอีกประการหนึ่งการถ่ายภาพที่มีความชัดลึกไว้หน่อยจะทำให้การมองภาพเสมือนมีความชัดมากขึ้น
[วิธีที่ 6]
เลือกทิศทางแสงในการถ่ายภาพเพื่อให้มีมิติ ในการดูภาพจะพบว่าถ้าวัตถุที่ถ่ายภาพมีมิติจะทำให้ภาพดูมีความคมชัดมากขึ้น
ทิศทางของแสงเป็นสิ่งหนึ่งที่ช่วยให้ภาพมีมิติ แสงด้านข้างจะทำให้เกิดเงาซึ่งจะช่วยให้วัตถุที่ถ่ายภาพมีมิติมากขึ้น
การเลือกทิศทางแสงด้านข้างจะช่วยเรื่องมิติภาพได้เป็นอย่างดีทำให้ภาพมีความคมชัดมากขึ้น
[วิธีที่ 7]
เลือกถ่ายภาพวัตถุให้มีความเปรียบต่างมากขึ้น ความเปรียบต่างของวัตถุที่เราถ่ายภาพจะช่วยให้การดูภาพเสมือนหนึ่งมีความคมชัดที่ดี
เพราะความเปรียบต่าง (CONTRAST) จะทำให้การดูภาพมีความตัดกันในด้านของโทนภาพ หรือสีสันของภาพที่ชัดเจนขึ้น ทำให้ภาพดูมีความคมชัดได้มากขึ้น
[วิธีที่ 8]
เลือกถ่ายภาพวัตถุที่มีรายละเอียดมากขึ้น โดยปกติเมื่อเราดูภาพวัตถุที่มีรายละเอียดมากเปรียบเทียบกับวัตถุที่มีรายละเอียดที่น้อยกว่า
เราจะรู้สึกว่า ภาพที่มีรายละเอียดที่มากกว่านั้นจะมีความคมชัดที่ดีกว่าภาพของวัตถุที่ไม่มีรายละเอียดทั้งที่ความจริงแล้วความคมชัดนั้นเท่ากัน
แต่ที่เห็นต่างกันก็คือความรู้สึก ดังนั้นการสร้างสรรค์ภาพด้วยการเลือกถ่ายภาพที่มีรายละเอียดมากกว่าจึงทำให้รู้สึกว่าภาพมีความคมชัดที่ดีกว่า
[วิธีที่ 9]
เลือกเวลาถ่ายภาพในยามที่ลมสงบ ถ้าถ่ายภาพวัตถุที่บางเบา หรือวิวทิวทัศน์ที่มีกิ่งไม้ใบหญ้า ควรระลึกเสมอว่า
กระแสลมที่แรงนั้นมีส่วนที่ทำให้วัตถุที่กำลังจะถ่ายภาพมีการเคลื่อนไหวได้ง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าต้องเลือกใช้ความเร็วชัตเตอร์ที่ต่ำด้วยแล้ว
แม้ว่าจะมีขาตั้งกล้องก็ตาม แต่การที่วัตถุมีการสั่นไหวด้วยแรงลมก็จะเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้วัตถุขาดความคมชัดได้
ดังนั้นการรอเวลาให้ลมสงบก่อนการกดชัตเตอร์จะเป็นการลดการไหวของวัตถุจากแรงลมได้เป็นอย่างดีเพื่อทำให้ได้ภาพที่คมชัด
[วิธีที่ 10]
ข้อควรระวังเกี่ยวกับเลนส์ เชื่อว่าเพื่อนๆ นั้นต่างก็ถือเลนส์ใช้งานที่แตกต่างกัน บางท่านอาจจะถือเลนส์โปรตัวละหลายหมื่นบาท
บางท่านอาจจะถือเลนส์ธรรมดาตัวละไม่ถึงหมื่น ซึ่งคุณภาพเลนส์ที่แตกต่างกันก็มีผลส่วนหนึ่งสำหรับในเรื่องของความคมชัด
แต่สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งที่มากกว่านั้นก็คือ การถ่ายภาพย้อนแสง สำหรับเลนส์คุณภาพสูงนั้นอาการแฟลร์และอาการฟุ้งของเลนส์จะมีน้อยกว่าเลนส์คุณภาพรองลงมา
ยิ่งถ้าเป็นเลนส์คุณภาพต่ำด้วยแล้วอาการทั้งแฟลร์และแสงฟุ้งจะมีมากขึ้นอาการเหล่านี้จะลดความคมชัดของภาพลงทันที
ดังนั้นการระมัดระวังหรือหลีกเลี่ยงการถ่ายภาพที่จะต้องย้อนแสงโดยตรงจะช่วยลดอาการฟุ้งไปได้มาก ซึ่งจะทำให้ภาพมีความคมชัดได้ดีขึ้น
หรือการใช้ Hood บังแสงที่หน้าเลนส์ก็จะเป็นการช่วยลดอาการดังกล่าวได้มาก
__________________________________________________________________________________
[หมายเหตุ]
บทความนี้ SmiLelY เอามาจาก ต้นฉบับ "10 เทคนิคถ่ายภาพให้ชัด"
แล้วนำมาดันแปรงเล็กน้อยตามความเหมาะสม ที่เขียนเพื่อเป็นการบอกเอาไว้ให้ทราบ จะได้ไม่เกิดการเข้าใจผิด
__________________________________________________________________________________
ขอบคุณ : camerartmagazine.com
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)